ความหมายของหมอลำ
"หมอ" คือผู้ชำนาญในกิจการต่างๆ
เช่น หมอแคน คือผู้ชำนาญในการเป่าแคน หมอมอหรือหมอโหร
คือผู้ชำนาญในการทำนายโชคชะตา หมอเอ็น คือผู้ชำนาญในการบีบนวดเส้นเอ็นตามร่างกาย
หมอยา คือผู้ที่ชานาญในการใช้สมุนไพร หมอธรรม
คือผู้ที่ชำนาญในการใช้วิชา(ธรรม)ในทางไสยศาตร์ หมอสูตร คือ
ผู้ชำนาญในการทำพิธีสูตรต่างๆ เช่น สูตรขวัญ หมอมวย คือผู้ชำนาญในการใช้วิชามวย
"ลำ" คืิอการขับร้องด้วยทำนองและภาษาถิ่นอีสานอย่างมีศิลป์
โดยมีแคนเป็นเสียงดนตรีหลักประกอบการขับร้อง
ดังนั้น "หมอลำ" จึงหมายถึง
ผู้ที่ชำนาญในการร้องเพลงด้วยภาษาถิ่นอีสานประกอบเสียงดนตรีพื้นบ้านแคน
ประเภทของหมอลำ
1.หมอลำพื้น
หมอลำพื้น
เป็นหมอลำที่เก่าแก่ที่สุดในประเภทหมอลำที่ใช้เพื่อความบันเทิง
ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าหมอลำพื้นเกิดขึ้นเมื่อใด
แต่บางคนสันนิษฐานว่าหมอลำพื้นเกิดมีในภาคอีสานตั้งแต่สมัยคนอีสานแรกรับเอาพระพุทธศาสนาเข้ามา
ดังเป็นเรื่องชาดกต่างๆ ลำพื้นบางทีเรียกว่า "ลำเรื่อง" คำว่า
"พื้น" หรือ "เรื่อง" หมายความว่า "นิทาน" หรือ
"เรื่องราว" ดังนั้น "ลำพื้น" จึงหมายถึง
"ลำที่เป็นเรื่องราว หรือเป็นเรื่องเล่า
ในสมัยก่อนลำพื้นเป็นที่นิยมกันมาก
ทุกๆหมู่บ้านมักจะว่าจ้างหมอลำพื้นมาลำในงานเทศกาลต่างๆ
หมอลำพื้นจะใส่เสื้อและกางเกงขายาวสีขาว และลำเรื่องชาดก
เวทีที่ใช้ลำจะใช้บนพื้นหรือเป็นเวทียกพื้นเล็กๆ
ซึ่งล้อมรอบด้วยผู้ฟังตั้งแต่เวลาสองทุ่มจนถึงหกโมงเช้า
ค่าจ้างของหมอลำพื้นขึ้นอยู่กับระยะทางที่หมอลำจะต้องเดินทางออกจากหมู่บ้านของตนถึงหมู่บ้านที่จะไปลำ
และเวลาที่จะไปลำว่านานแค่ไหน
2.หมอลำกลอน
หมอลำกลอน เป็นกลอน หมายถึง
บทร้อยกรองต่างๆ เช่น โคลง.ร่าย หรือ กาพย์กลอน "หมอลำกลอน"
ตามรูปศัพท์แล้ว หมายถึง หมอลำที่ลำโดยใช้บทกลอน ซึ่งความจริงแล้วหมอลำกลอนล้วนแต่ใช้กาพย์กลอนเป็นบทลำทั้งสิ้น
ที่ได้ชื่อว่าเป็น "หมอลำกลอน"
นั้นก็เพื่อที่จะแยกให้เห็นข้อแตกต่างระหว่างหมอลำพื้น
ซึ่งปรากฏว่าหมอลำสองชนิดนี้ในขณะเดียวกัน
หมอลำกลอนเป็นที่รู้จักแพร่หลายในขณะที่หมอลำพื้นได้ค่อยๆสูญหายไป
หมอลำพื้นกับหมอลำกลอนแตกต่างกันตรงที่
หมอลำพื้นเป็นการลำเดี่ยว และลำเป็นนิทาน ส่วนลำกลอนเป็นการลำสองคนลักษณะโต้ตอบกัน
อาจเป็นไปได้ว่าการลำกลอนได้พัฒนามาสองทางคือจากลำ โจทย์แก้
ซึ่งเป็นการลำแบบตอบคำถาม อย่างที่สองคือ "ลำเกี้ยว" ซึ่งเป็นการลำในทำนองเกี้ยวพาราสีระหว่าง
หญิง-ชาย
3.หมอลำหมู่
หมอลำหมู่ เป็นลำหมู่ ตามรูปศัพท์
หมายถึงการร้องเป็นหมู่ ความจริงลำหมู่เป็นการแสดงของกลุ่มศิลปินหมอลำหมู่
การลำหมู่เพิ่งจะเกิดขึ้นได้เมื่อประมาณ 50-60 ปี
สิ่งที่เกิดมาก่อนลำหมู่คือ ลำพื้นและลิเก ซึ่งเป็นการละเล่นของชาวไทย ในภาคกลาง
ลำหมู่ได้แบบอย่างการแต่งกายมาจากลิเก และได้แบบอย่างการลำมาจาการลำพื้นและลำกลอน
คณะหมอลำหมู่ประกอบด้วยคน 15-30 คน ตัวละครประกอบด้วย
พระราชา พระราชินี เจ้าชาย เจ้าหญิง คนใช้ พ่อ แม่ ลูกชาย ลูกสาว ฤาษี เทวดา
และภูตผี คนใช้ปกติจะแสดงเป็นตัวตลกด้วยหมอลำ แต่ละคนจะสวมใส่เครื่องตามบทบาทในท้องเรื่องครื่องดนตรีที่ใช้ในการประกอบลำหมู่คือ
แคน แต่ปัจจุบันหมอลำส่วนมากใช้เครื่องดนตรีฝรั่ง เช่น กลองชุด ทรัมเป็ต แซ็กโซโฟน
หรือกีตาร์ แต่เครื่องดนตรีฝรั่งพวกนี้จะใช้ประกอบเครื่องดนตรีลูกทุ่งมากกว่าประกอบหมอลำหมู่
ดังนั้น แคนก็ยังเป็นเครื่องดนตรีสำหรับประกอบการ"ลำ"อยู่ดี
ลายแคนที่ใช้ประกอบลำหมู่ ส่วนมากใช้ลายใหญ่ ซึ่งช้าและเศร้า
หรือลายน้อยซึ่งช้าและเศร้าเช่นกันแต่คนละระดับเสียง อย่างไรก็ตามในฉากที่มีการฟ้อนรำ
หรือ สนุกสนานหมอลำหมู่จะลำเต้ยซึ่งเป็นเพลงรักสั้นๆหมอแคนก็จะเป่าลาย
"ลำเต้ย" ซึ่งได้แก่เต้ยโขง เต้ยพม่า เต้ยธรรมดา และเต้ยหัวโนนตาล
4.หมอลำเพลิน
หมอลำเพลิน เป็นหมอลำหมู่อีกประเภทหนึ่ง
เป็นการแสดงที่แสดงเป็นคณะ
เรื่องที่จะแสดงเป็นเรื่องอะไรก็ได้รวมทั้งเรื่องที่หมอลำหมู่แสดง
ส่วนข้อแตกต่างระหว่างหมอลำหมู่กับหมอลำเพลิน คือ
1.ในหมอลำหมู่ผู้แสดงฝ่ายหญิงทุกคนจะแต่งชุดด้วยผ้าซิ่นแบบพื้นบ้านอีสาน
หรือไม่ก็ชุดไทย แต่ลำเพลินฝ่ายหญิงจะนุ่งกระโปรงแบบฝรั่ง
2.ในลำเพลินนอกจากแคนแล้วยังมีพิณเป็นเครื่องดนตรีประกอบด้วย
3.ในลำเพลินจะมีจังหวะการลำที่เรียกว่า
"ลำเพลิน" ซึ่งหมายถึงจังหวะสนุกสนาน
ถึงแม้ว่าลำเพลินจะเข้าม่มีบทบาทพร้อมๆกับลำหมู่ก็ตาม
แต่ไม่เป็นที่นิยมแพร่หลายเท่าลำหมู่ จนเมื่อประมาณสิบปีก่อน
ลำเพลินจึงกลายมาเป็นที่นิยมของคนทั่วไป
และเป็นที่น่าสนใจว่าการฝึกซ้อมที่จะเป็นหมอลำเพลินนั้นง่ายและใช้เวลาน้อยกว่าการเป็นหมอลำหมู่
กล่าวคือ
5.หมอลำผีฟ้า
คนอีสานบางคนมีความเชื่อว่าโรคภัยไข้เจ็บเกิดจากเชื้อโรค
และบางคนเชื่อว่าเกิดจากการกระทำของผี ความเจ็บป่วยที่เกิดจากเชื้อโรค
สามารถเยียวยาให้หายได้ด้วยการรักษาโดยการใช้ยา ส่วนความเจ็บปวดที่เกิดจากผีนั้น
เชื่อว่าต้องได้รับการรักษาจากผีฟ้าหรืออำนาจอย่างอื่น
อย่างไรก็ตามเมื่อถึงคราวชีวิตจะสิ้นสุดลง ก็ไม่สามารถมีใครเหนี่ยวรั้งเอาไว้ได้
คนป่วยที่ได้รับการรักษาจากวิธีการสมัยใหม่หรือจากยาไม่ได้ผลแล้วคนใช้หรือญาติพี่น้องของคนไข้ก็จนปัญญาจำต้องหันหน้าพึ่งทางอื่น
และพึ่งทางอันนั้นก็คือ หมอลำผีฟ้า
ถึงแม้ว่าทุกคนจะไม่มีความเชื่อในหมอลำผีฟ้าดังกล่าว
แต่เพื่อชีวิตอย่างน้อยก็ต้องลองเสี่ยงดู
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น